ชื่อกระบวนงาน : การขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ

9 ก.ย. 67 เวลา 15:30 น.210 ครั้ง

หมวดหมู่ของกระบวนงาน : เรื่องขออนุญาต

สถานที่/ช่องทางการให้บริการ

ระยะเวลาเปิดให้บริการ

ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน ได้ดังนี้

1. กรุงเทพมหานคร

กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษา/กลุ่มงานโรงเรียนนโยบายพิเศษ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 
319 กระทรวงศึกษาธิการ แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 

โทรศัพท์: 
กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษา 0 2282 9575
กลุ่มงานโรงเรียนนโยบายพิเศษ 0 2282 7756

2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่จะขออนุญาต
ยกเว้น จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส
จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา

3. สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/อำเภอ ที่จะขออนุญาตสำหรับจังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี
จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา

 

เปิดให้บริการวันจันทร์ ถึง วันศุกร์
(ยกเว้นวันหยุดที่ทางราชการกำหนด) 
ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
(มีพักเที่ยง ตั้งแต่เวลา 12.00-13.00 น. )

1. พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 
2. ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2561
    ประกาศ ณ วันที่
28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

 

กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการ จึงอ้างอิงจากพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการไว้ 15 วัน

- ประชาชนทั่วไป  
- โรงเรียนในระบบ

การขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ โรงเรียนต้องยื่นคำขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชน (แบบ อ.1)
พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของโรงเรียน เพื่อประกอบการพิจารณา และชำระค่ายื่นคำขอ 100 บาท ซึ่งการดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

1. กรณีผู้รับใบอนุญาตยังมีชีวิตอยู่
2. กรณีผู้รับใบอนุญาตถึงแก่ความตาย หรือเป็นคนสาบสูญ หรือได้ไปเสียจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่โดยไม่มีผู้ใดได้รับข่าว

    ในกรณีนี้เป็นกรณีที่ไม่มีผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้รับใบอนุญาต แบ่งย่อยออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

    1. กรณีที่ทายาทมีความประสงค์จะดำเนินกิจการโรงเรียนในระบบต่อไป ให้ทายาท หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งโดยทายาทหรือผู้จัดการมรดก แล้วแต่กรณี ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่ระบุไว้ในคุณสมบัติของผู้ขอรับโอนใบอนุญาต ยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย สาบสูญ หรือวันที่ครบหนึ่งปีที่ไปเสียจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ ถ้ามิได้ยื่นคำขอภายในเวลาที่กำหนด ให้ผู้อนุญาตมีคำสั่งควบคุมโรงเรียนในระบบตามมาตรา 96
    2. กรณีที่ทายาทไม่ประสงค์จะดำเนินกิจการโรงเรียนในระบบนั้นต่อไป ให้ทายาทยื่นคำขอเลิกกิจการโรงเรียนในระบบ หรือโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบให้บุคคลอื่น ซึ่งสามารถโอนใบอนุญาต ให้ผู้ขอรับโอนใบอนุญาตได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

    คุณสมบัติของผู้ขอรับโอน ทั้งกรณีผู้รับใบอนุญาตยังมีชีวิตอยู่และกรณีผู้รับใบอนุญาตถึงแก่ความตาย หรือเป็นคนสาบสูญ หรือได้ไปเสียจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่โดยไม่มีผู้ใดได้รับข่าว จะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้

- กรณีผู้ขอรับโอนใบอนุญาตเป็นบุคคลธรรมดา
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
3. สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี
4. มีความประพฤติเรียบร้อยไม่บกพร่องในศีลธรรมอันดี
5. เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
6. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
7. ไม่เคยถูกออกจากราชการโดยมีความผิด เว้นแต่ได้ถูกออกจากราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ก่อนวันขอรับโอนกิจการโรงเรียน
8. ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน เว้นแต่ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ก่อนวันขอรับโอนกิจการ
9. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
10. ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษา ถึงที่สุดให้จำคุกและได้พ้นโทษมาแล้วไม่ถึงห้าปีก่อนวันขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

- กรณีผู้ขอรับโอนใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล
1. มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา เว้นแต่นิติบุคคลที่ขอจัดตั้งนั้น เป็นองค์กรของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ
2. นิติบุคคลที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทจำกัด หรือ ห้างหุ้นส่วน ต้องมีจำนวนหุ้นหรือทุนเป็นของผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนที่มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นหรือทุนทั้งหมด และจะต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนที่มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมด
3. นิติบุคคลที่เป็นมูลนิธิ จะต้องมีกรรมการที่มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารทั้งหมด
4. นิติบุคคลที่เป็นสมาคมหรือสหกรณ์ จะต้องมีกรรมการที่มีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด และสมาชิกของสมาคมหรือสหกรณ์ต้องมีสัญชาติไทยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
5. ผู้จัดการของนิติบุคคลหรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้น ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับกรณีผู้ขอรับโอนใบอนุญาตเป็นบุคคลธรรมดา

ลำดับ

ขั้นตอน

ระยะเวลา

กลุ่มงานที่รับผิดชอบ

1

การตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสาร

รายละเอียด : ตรวจสอบความครบถ้วนของคำขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ (แบบ อ.1) พร้อมด้วยเอกสารประกอบ

1 วัน

1. กรุงเทพมหานคร

กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษา/กลุ่มงานโรงเรียนนโยบายพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
319 กระทรวงศึกษาธิการ แขวงดุสิต
เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

โทรศัพท์: 
กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษา 
0 2282 9575
กลุ่มงานโรงเรียนนโยบายพิเศษ 
0 2282 7756

2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัด
ยกเว้น จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี
จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา

3. สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา

2

การตรวจพิจารณาเอกสาร

รายละเอียด: พิจารณาความถูกต้อง
ของเอกสาร

5 วัน

3

การลงนามใบอนุญาต

รายละเอียด: จัดทำร่างใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนในระบบ (แบบ อ.3) พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้อนุญาตพิจารณาลงนามใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียนในระบบ (แบบ อ.3)

7 วัน

4

การแจ้งผลการพิจารณา

รายละเอียด: แจ้งผลการพิจารณา
ให้แก่ผู้รับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบทราบ

 

2 วัน

-   ระยะเวลาในการดำเนินการรวม  15 วัน
หมายเหตุ : ระยะเวลาในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามบริบทของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน / สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/ สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ แต่ระยะเวลาทั้งหมดรวมแล้วไม่เกิน 15 วัน

1. กรณีผู้ขอรับโอนใบอนุญาตเป็นบุคคลธรรมดา
    1. คำขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ (แบบ อ.1)  จำนวน 1 ฉบับ
    2. สำเนาหลักฐานที่แสดงว่าโรงเรียนได้รับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินหรือสิทธิเหนือพื้นดินหรือสิทธิเก็บกินหรือสิทธิการเช่าแล้ว  จำนวน 1 ฉบับ
    3. สำเนาตราสารจัดตั้ง (ตราสารจัดตั้งฉบับเดิมจนถึงฉบับที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด)  จำนวน 1 ฉบับ
    4. สำเนารายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน (รายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนฉบับเดิมจนถึงฉบับที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด)  จำนวน 1 ฉบับ
    5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน  จำนวน 1 ฉบับ
    6. สำเนาทะเบียนบ้าน  จำนวน 1 ฉบับ
    7. สำเนาหลักฐานการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี  จำนวน 1 ฉบับ
    8. รูปถ่ายครึ่งตัว หน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด 4 x 6 เซนติเมตร จำนวน 2 รูป

2. กรณีผู้ขอรับโอนใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล
    1. คำขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ (แบบ อ.1)  จำนวน 1 ฉบับ
    2. สำเนาหลักฐานที่แสดงว่าโรงเรียนได้รับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินหรือสิทธิเหนือพื้นดินหรือสิทธิเก็บกินหรือสิทธิการเช่าแล้ว  จำนวน 1 ฉบับ
    3. สำเนาตราสารจัดตั้ง (ตราสารจัดตั้งฉบับเดิมจนถึงฉบับที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด)  จำนวน 1 ฉบับ
    4. สำเนารายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน (รายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียนฉบับเดิมจนถึงฉบับที่มีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด)  จำนวน 1 ฉบับ
    5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคล)  จำนวน 1 ฉบับ
    6. สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคล)  จำนวน 1 ฉบับ
    7. สำเนาหลักฐานการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี (ผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคล)  จำนวน 1 ฉบับ
    8. สำเนาสำคัญแสดงการจดทะเบียนของนิติบุคคล พร้อมด้วยวัตถุประสงค์  จำนวน 1 ฉบับ
    9. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น กรณีนิติบุคลเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัด  จำนวน 1 ฉบับ
    10. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้เป็นหุ้นส่วน กรณีนิติบุคลเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  จำนวน 1 ฉบับ
    11. สำเนารายชื่อและสัญชาติของกรรมการ กรณีนิติบุคคลเป็นมูลนิธิ สมาคม หรือสหกรณ์  จำนวน 1 ฉบับ
    12. สำเนารายชื่อและสัญชาติของสมาชิกทุกคน กรณีนิติบุคคลเป็นสมาคม หรือสหกรณ์
    13. สำเนาหนังสือมอบอำนาจจากผู้มีอำนาจทำการแทนนิติบุคคลให้เป็นผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคล

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาจเรียกเอกสารของผู้ขอโอนประกอบการพิจารณา ดังนี้
    1. กรณีผู้รับใบอนุญาตถึงแก่ความตายอาจเรียกใบมรณบัตร และคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกหรือหนังสือยินยอมจากทายาททุกคนที่ลงลายมือชื่อแล้วพร้อมเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน  จำนวน 1 ชุด
    2. กรณีผู้รับใบอนุญาตเป็นคนสาบสูญหรือไปเสียจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่อาจเรียก คำสั่งศาลให้ผู้รับใบอนุญาตเป็นคนสาบสูญ และคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก หรือหนังสือยินยอมจากทายาททุกคนที่ลงลายมือชื่อแล้ว พร้อมเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน  จำนวน 1 ชุด

ชำระค่ายื่นคำขอโอนและรับโอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบ (แบบ อ.1) จำนวน 100 บาท โดยสามารถติดต่อชำระค่าธรรมเนียมได้ที่

1. กรุงเทพมหานคร ติดต่อที่ : ฝ่ายการคลัง กลุ่มงานเลขานุการกรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
319 กระทรวงศึกษาธิการ แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทรศัพท์: 0 2282 8868-9
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่จะขออนุญาต ยกเว้น จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา
3. สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/อำเภอ ที่จะขออนุญาต สำหรับจังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา

ลำดับ

ช่องทางการร้องเรียน/แนะนำบริการ

 

1

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
เลขที่ 319 วังจันทรเกษม ถนนราชดำเนินนอก แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
โทรศัพท์ : 1693
อีเมล : saraban@opec.go.th

 

2

 

ศูนย์บริการประชาชน กระทรวงศึกษาธิการ
โทรศัพท์ : 1579
เว็บไซต์ : www.1579.moe.go.th

-
กลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง : กลุ่มงานโรงเรียนนโยบายพิเศษ (กน.)