1. พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554    
2. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการคุ้มครองการทำงานของครูใหญ่และครูโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547
3. ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎกระทรวงการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้ง และรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน และการขออนุญาตรายการอื่น ๆ ของโรงเรียนในระบบ ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
4. ระเบียบคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ว่าด้วยการเก็บรักษาเอกสารหลักฐานของโรงเรียนในระบบ พ.ศ. 2563 ประกาศ ณ วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563

ประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการตามกฎกระทรวงการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้ง และรายละเอียดเกี่ยวกับกิจการโรงเรียน และการขออนุญาตรายการอื่น ๆ ของโรงเรียนในระบบ ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 กำหนดให้  ผู้อนุญาตพิจารณาแจ้งผลการพิจารณาออกใบอนุญาตต่าง ๆ (แบบอช. 5) ภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่ ได้รับคำขอพร้อมเอกสารประกอบครบถ้วน

โรงเรียนในระบบ

เมื่อผู้รับใบอนุญาต หรือทายาท หรือผู้จัดการมรดก (กรณีผู้รับใบอนุญาตถึงแก่ความตาย หรือสาบสูญ หรือไปเสียจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่โดยไม่มีผู้ใดได้รับข่าว) แล้วแต่กรณี ไม่ประสงค์จะดำเนินกิจการโรงเรียนในระบบต่อไป ให้ดำเนินการขอเลิกกิจการโรงเรียนในระบบ จะต้องยื่นคำขออนุญาตต่าง ๆ (แบบ อช.4) พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณา และชำระค่ายื่นคำขอ 100 บาท ต่อผู้อนุญาตล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 120 วัน ก่อนสิ้นปีการศึกษา หรือกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยจะยื่นคำขอล่วงหน้าน้อยกว่าระยะเวลาดังกล่าวก็ได้

-  ระยะเวลาในการดำเนินการรวม  60 วัน
หมายเหตุ : ระยะเวลาในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามบริบทของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน / สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด/ สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ แต่ระยะเวลาทั้งหมดรวมแล้วไม่เกิน 60 วัน

1. คำขออนุญาตต่าง ๆ (แบบอช. 4)  จำนวน 1 ฉบับ
2. มาตรการรองรับหรือแผนความช่วยเหลือนักเรียนและครูที่ได้รับผลกระทบ  จำนวน 1 ฉบับ
3. บัญชีการจ่ายเงินชดเชยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา  จำนวน 1 ฉบับ
4. หลักฐานเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการศึกษา และเอกสารอื่นตามที่คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกำหนด  จำนวน 1 ชุด
5. ใบอนุญาตให้จัดตั้ง ตราสารจัดตั้ง รายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน และใบอนุญาตอื่น ๆ  จำนวน 1 ชุด
6. รายงานการประชุมของนิติบุคคลที่เป็นผู้รับใบอนุญาต (กรณีผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนในระบบไม่ใช่บุคคลธรรมดา) ที่มีมติเห็นชอบให้เลิกกิจการโรงเรียน  จำนวน 1 ฉบับ

ชำระค่ายื่นคำขออนุญาตต่าง ๆ (แบบอช. 4) จำนวน 100 บาท โดยสามารถติดต่อชำระค่าธรรมเนียมได้ที่

1. กรุงเทพมหานคร ติดต่อที่ : ฝ่ายการคลัง กลุ่มงานเลขานุการกรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
319 กระทรวงศึกษาธิการ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 
โทรศัพท์: 0 2282 8868-9
2. สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่จะขออนุญาตเลิกกิจการโรงเรียน
ยกเว้น จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา
3. สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด/อำเภอ ที่จะขออนุญาตเลิกกิจการโรงเรียน
สำหรับจังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา

หมายเหตุ :

1. โรงเรียนที่ยื่นคำขอเลิกกิจการให้ผู้รับใบอนุญาต ผู้อำนวยการ และผู้จัดการมีหน้าที่ส่งมอบหลักฐานของโรงเรียน ดังต่อไปนี้
       1.1 เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของโรงเรียน ประกอบด้วย
             (1) ใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียน
             (2) ตราสารจัดตั้งโรงเรียน พร้อมเอกสารแนบท้ายตราสารจัดตั้งที่ได้รับอนุญาต 1 ใบอนุญาตเปลี่ยนแปลงตราสารจัดตั้ง (ถ้ามี)
             (3) รายละเอียดเกี่ยวกับกิจการของโรงเรียน ได้แก่ 
                   (ก) เอกสารหลักฐานของโรงเรียนส่วนที่ใด้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตในส่วนที่เกี่ยวกับหลักสูตร วิธีการเรียนการสอน การวัดและการประเมินผลการศึกษา
                   (ข) เอกสารหลักฐานของโรงเรียน ส่วนที่ไม่ต้องขออนุญาตจากผู้อนุญาตแต่ต้องรายงานให้สำนักงานทราบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการและแผนการดำเนินงาน อัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น คุณสมบัติ อัตราเงินเดือน ค่าสอน ค่าชดเชย ค่าตอบแทน หลักเกณฑ์การจ้างและเลิกจ้าง และสวัสดิการของครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามลำดับ 
              (4) ใบอนุญาตให้รับโอนโรงเรียน
              (5) ใบอนุญาตอื่น ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
              (6) สมุดหมายเหตุรายวัน
         1.2 เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดการศึกษาของโรงเรียนมีดังนี้
               (1) ทะเบียนนักเรียน
               (2) หลักฐานเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการศึกษาตามหลักสูตรที่โรงเรียนจัดการศึกษา หลักฐานการมาเรียน หลักฐานเวลาเรียนรายวิชาและหลักฐานการสอบ
2. โรงเรียนในระบบที่ขอเลิกกิจการต้องไม่เป็นลูกหนี้ของกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบและไม่มีการค้างจ่ายคืนเงินอุดหนุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกช
3. โรงเรียนที่ได้รับจัดสรรเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต้องนำเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ส่งคืนผู้อนุญาต
4. เมื่อได้รับอนุญาตให้เลิกกิจการโรงเรียนในระบแล้ว คณะกรรมการบริหารโรงเรียนในระบบจะต้องแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี 
   เพื่อชำระบัญชีของโรงเรียน และเมื่อชำระบัญชีเสร็จสิ้นแล้วให้แจ้งผู้อนุญาตทราบ