เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ร่วมกับ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้จัดงานประชุมถอดบทเรียนและจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายให้มี “ผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือกสุขภาพในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (Healthier School Policy)” เพื่อผลักดันให้โรงเรียนเอกชนทั่วประเทศเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านอาหารสุขภาพของเด็กไทย โดย นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) ได้มอบหมายให้ นางสุมิตรา ทองแสง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมมาตรฐานการศึกษา ร่วมมอบใบประกาศและร่วมเสวนาในงานประชุมดังกล่าว โดยมี เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้แทนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ ผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่มีโรงเรียนนำร่องเข้าร่วมโครงการ และผู้แทนจากโรงเรียนนำร่องที่เข้าร่วมโครงการ เข้าร่วม ณ อาคารศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (OSSC) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
เลขาธิการฯ อย. กล่าวว่า การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) ตั้งแต่วัยเด็ก คือกุญแจสำคัญในการลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และสร้างสังคมไทยสุขภาพดีในระยะยาว นโยบายนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง อย. สถาบันโภชนาการ ม.มหิดล สสส. และกระทรวงศึกษาธิการ โดยมุ่งสร้างโรงเรียนต้นแบบที่นำสัญลักษณ์ “ทางเลือกสุขภาพ” มาใช้เป็นแนวทางในการเลือกและจำหน่ายอาหาร เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น โดย อย. พร้อมเดินหน้าส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปรับสูตรผลิตภัณฑ์อาหาร ลดหวาน มัน เค็ม และขยายการใช้ฉลาก “ทางเลือกสุขภาพ” ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพทุกช่วงวัย สำหรับการประชุมดังกล่าว มุ่งเน้นการนำเสนอผลการดำเนินงานวิจัย การเก็บข้อมูลเชิงระบบจากโรงเรียนเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้บริหาร ครู และหน่วยงานภาคีเครือข่าย เพื่อร่วมกำหนดแนวทาง “โรงเรียนสุขภาพดี” ที่ยั่งยืน
ผชช.สุมิตรา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาเอกชนให้มีคุณภาพและมาตรฐานทุกมิติ ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้เรียน ภายใต้การกำกับดูแลส่งเสริมการจัดการศึกษาเอกชนที่มีความเท่าเทียมและเสมอภาค ทั้งด้านคุณภาพการศึกษาและคุณภาพชีวิตของนักเรียน ครูและบุคลากรในโรงเรียนเอกชน ทั้งยังมีการดำเนินงานสอดคล้องกับนโยบายด้านการศึกษาและด้านสุขภาพของประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่ขับเคลื่อนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขมาตลอด โดยมีโครงการและกิจกรรมหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับงานอนามัยและโภชนาการของโรงเรียน และส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ โครงการโรงเรียนอาหารปลอดภัย ร่วมกับ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ มีโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ และกรุงเทพมหานคร+ปริมณฑล เข้าร่วมโครงการ จำนวน 17 โรง โครงการ อย.น้อย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข มีโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ จำนวน 148 โรงเรียน โครงการสุขภาพดีด้วยทฤษฎีเพื่อน (ตาย) ด้วยหลัก 10 อ. วิถีชีวิตใหม่ยุคดิจิทัล ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และการวิจัยรูปแบบการบริหารจัดการปัญหาภาวะทุพโภชนาการนักเรียนในโรงเรียนเอกชนที่เหมาะสม เพื่อการประเมินรูปแบบและสร้างแนวทางลงสู่การปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“ในการดำเนินโครงการขับเคลื่อนสัญลักษณ์โภชนาการ ทางเลือกสุขภาพ Healthier Choice ภายใต้การทำงานของคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ นับเป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนเอกชน รวมถึงเป็นโอกาสดีของโรงเรียนเอกชนทั้ง 10 แห่ง ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนเอกชนนำร่องทางเลือกสุขภาพ “โรงเรียนต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารทางเลือกสุขภาพ” ทั้งนี้ สช. ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดเชื่อมั่นว่าโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกฯ มีศักยภาพและความพร้อมที่จะเป็นแบบอย่าง ทั้งในด้านการวางแนวทางการจัดกิจกรรม และการสร้างเครือข่ายเพื่อขยายสู่โรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ ให้มีสัญลักษณ์ "ทางเลือกสุขภาพ" ในโรงเรียนเพิ่มมากยิ่งขึ้น” ผชช.สุมิตรา กล่าว
สำหรับโครงการนี้ถือเป็นการนำร่องที่ สช. ให้การส่งเสริมขับเคลื่อนเป็นนโยบาย เพื่อสร้างมาตรฐานสภาพแวดล้อมด้านสุขภาพที่ดีในโรงเรียนเอกชน ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเอกชนที่จะต้องรายงานต่อต้นสังกัดทุกสิ้นปี นอกจากนี้ สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองที่เลือกส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนที่ช่วยให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง สามารถเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมกับภาวะพัฒนาการของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังขยายผลไปยังร้านค้าและชุมชนโดยรอบของโรงเรียน ก่อให้เกิดการตระหนักรู้และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคในวงกว้างจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ใน 10 โรงเรียนวันนี้ กำลังจะถูกส่งต่อและขยายไปสู่โรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้การเลือกอาหารที่ดีกว่าผ่านสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพและมีสุขภาพที่ดีเติบโตอย่างแข็งแรง “ทางเลือกในวันนี้ คือ การวางรากฐานสุขภาพที่มั่นคงให้กับอนาคตของชาติต่อไป” ผชช.สุมิตรา กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ โรงเรียนเอกชนนำร่องทางเลือกสุขภาพ จำนวน 10 โรงเรียน ที่เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลง ได้แก่
1. โรงเรียนวชิรวิชญ์จังหวัดเชียงใหม่
2. โรงเรียนประชาวิทย์จังหวัดลำปาง
3. โรงเรียนเซนต์แมรี่จังหวัดร้อยเอ็ด
4. โรงเรียนมารีย์วิทยาจังหวัดศรีสะเกษ
5. โรงเรียนบางแก้วอิสลามศึกษาจังหวัดพัทลุง
6. โรงเรียนวรพัฒน์จังหวัดสงขลา
7. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
8. โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
9. โรงเรียนเซนต์เทเรซ่าเขตหนองจอก
10. โรงเรียนเซนต์คาเบียน
โครงการนี้ถือเป็นการนำร่องเพื่อผลักดันนโยบายและสร้างสภาพแวดล้อมด้านสุขภาพที่ดีในโรงเรียนโดยกำหนดให้มี การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพภายในโรงเรียนซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดได้รับการติดตามประเมินผลตามเกณฑ์ 5 ด้านอย่างเป็นระบบ
1. ด้านนโยบายและบริหารจัดการของโรงเรียนต้องมีการประกาศนโยบายที่ชัดเจนและแต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบ
2. โรงอาหารภายในโรงเรียนต้องมีอาหารและเครื่องดื่มที่ผ่านเกณฑ์ทางเลือกสุขภาพอย่างน้อย 30% ของทั้งหมด
3. ร้านค้าสวัสดิการภายในโรงเรียนต้องมีสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพอย่างน้อย 50% ของรายการทั้งหมด
4. ด้านสภาพแวดล้อมในโรงเรียนได้แก่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มชากาแฟต้องมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพรวมถึงเพิ่มสินค้าทางเลือกสุขภาพในตู้จำหน่ายอัตโนมัติอัตโนมัติภายในโรงเรียนและ
5. การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ทั้งในรูปแบบอ่อนไลและออนไลน์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียนคุณครูและผู้ปกครอง การดำเนินโครงการนี้จะทำให้โรงเรียนสามารถปรับการจัดอาหารและเครื่องดื่มให้มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณภาพจาก : สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ประชาสัมพันธ์ สช.