วันนี้ (1 เมษายน 2567) เวลา 10.00 น. พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2567 และรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2566 โดยมีนายสุรศักดิ์ พันธ์เจิรญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นายโกเมศ กลั่นสมจิตต์ รองเลขาธิการ กช. ข้าราชการและบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ณ ห้องประชุมบุณยเกตุ หอประชุมคุรุสภา
พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ กล่าวว่า ในโอกาสวันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงศึกษาธิการ ครบรอบ 132 ปี นับเป็นวันสำคัญของข้าราชการ และบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ ที่ได้รับผิดชอบภาระหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพของคน ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในประเทศ และการที่จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงในทางที่เจริญก้าวหน้า ที่เรียกว่า “การพัฒนา” นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเริ่มต้นที่ “การพัฒนาคน” เป็นลำดับแรกก่อน การวางรากฐานด้านการพัฒนาคน เพื่อรองรับความเจริญของประเทศในอนาคต รัฐบาลได้กำหนดนโยบายสำคัญที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี เอาไว้หลายประการ ซึ่งได้แก่ การมุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ การเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนตามความถนัดเพื่อสร้างอนาคตและสร้างรายได้ การกระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนเข้าถึงการเรียนรู้ โดยมีอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย และใช้ระบบเทคโนโลยีการศึกษาสมัยใหม่ จัดทำหลักสูตรที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน และการสร้างผู้เรียนให้มีความพร้อม ต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของโลกสมัยใหม่
รมว.ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทที่จะต้องพิจารณาดำเนินการให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ได้ตั้งเอาไว้ ประการสำคัญคือรัฐบาลจะมุ่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่เป็นรากฐานของความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งอาจถือว่าเป็นแนวทางการปฏิรูปการศึกษา ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุด ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงวางจุดเน้นการทำงานไปที่การยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เกิด “การเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา” (Anywhere Anytime) โดยพยายามเร่งส่งเสริมบทบาทของทุกภาคส่วนให้เข้ามาสนับสนุนและจัดการศึกษา จัดหาสื่อดิจิทัลและแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทุกท่าน ณ ที่ประชุมแห่งนี้จะสามารถช่วยเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญต่อภารกิจดังกล่าว ดั่งแนวทางการทำงานของ ศธ. “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ที่จะขาดไปไม่ได้ต้องขอบคุณผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการประจำปี 2567 ครูผู้เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง และข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2566 ซึ่งทุกคนเป็นผู้มีความสำคัญยิ่งในการผลักดันการปฏิรูปการศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของการจับมือไว้แล้วไปด้วยกัน อีกทั้งยังเสมือนเป็นตัวแทนของผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการศึกษาคนอื่น ๆ ที่มีเป็นจำนวนมากและกระจายอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย
นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนากระทรวงศึกษาธิการขึ้น และรำลึกถึงผู้ทำคุณประโยชน์ที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2567 และข้าราชการพลเรือนดีเด่นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2566 ซึ่งภายในพิธีได้มีการมอบเข็ม “เสมาคุณูปการ” และประกาศเกียรติคุณบัตรแก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 135 ราย/รูป โดยสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีผู้รับรางวัลฯ ดังกล่าว จำนวนทั้งสิ้น 4 คน ได้แก่ 1.นายพรชัย พิศาลสิษฐ์กุล 2. นางลัดดา อาฮหมัด-มาฮิดิ 3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์มนตา ตุลย์เมธาการ และ 4. นายจ้าว เยี่ยน ชิง จาก CENTER FOR LANGUAGE EDUCATIN AND COOPERATION, BANGKOK นอกจากนี้ยังมีการมอบเข็ม “เชิดชูเกียรติ” และประกาศเกียรติบัตรให้กับข้าราชการพลเรือนดีเด่น กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี 2566 จำนวนทั้งสิ้น 12 ราย โดยมีข้าราชการสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เข้ารับรางวัลดังกล่าว จำนวน 1 คน ได้แก่ นางภัทราพรรณ เล็งวัฒนากิจ ผู้อำนวยการกลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษา
ภาพรับมอบเข็ม ผู้คุณประโยชน์ให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพรับมอบเข็มฯ จาก กผป.สป.ศธ.
ฐิติวัจน์ ชัยกิมานนท์ / ภาพ
ประกาย ศรีจันทึก / เรียบเรียงข่าว
ประชาสัมพันธ์ สช.